วันเสาร์ที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2554

ผู้นำทรงพลังทางการศึกษา : ตอนที่ 7 ภาวะผู้นำทรงพลังกับการพัฒนาคุณภาพการศึกษา

ภาวะผู้นำเป็นพลังในการจูงใจคนให้ทำงานไปสู่ความสำเร็จ  เป็นพลังที่ผู้นำต้องพัฒนา และรู้วิธีที่จะรักษาพลังนั้นไว้ให้คงอยู่และทรงพลังอยู่เสมอ อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงตลอดของสภาพแวดล้อมทั้งทางกายภาพ และจิตภาพ ที่ตกต่ำก่อให้เกิดความเครียด อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้   ผู้บริหารและครูต้องเผชิญกับสถานการณ์ความรุนแรงความตกต่ำทางการศึกษาทำให้เกิดประเด็นใหม่ ๆ ทางการศึกษามากมาย  ที่ต้องการคลี่คลายและ แก้ปัญหา   สภาวการณ์ดังกล่าว ทำให้ผู้บริหารสถานศึกษา ในฐานะผู้นำองค์การต้องทำงานหนักมากขึ้นเพื่อนำพาองค์การให้ผ่านพ้นวิกฤตครั้งนี้ไปให้ได้  ก่อให้เกิดความเครียด ความอ่อนล้า เหนื่อยหน่าย  กังวล ก่อให้เกิดภาวะอ่อนแรง อันส่งผลต่อการประสิทธิภาพการทำงานโดยภาพรวม   ในขณะที่ไม่มี ผู้ใด หรือสัญญาณใด ๆ บอกได้ว่าสถานการณ์ที่ก่อให้เกิดความเครียดเหล่านี้จะยุติลงเมื่อใดซึ่งหมายความว่าผู้บริหารสถานศึกษาครู  และบุคลากรทางการศึกษาต้องจมอยู่กับความหวาดกลัว  ความเครียด ความอ่อนล้าอย่างไม่มีสิ้นสุด สถานการณ์ดังกล่าวนี้จำเป็นต้องอาศัยกระบวนการพัฒนาผู้บริหารในฐานะผู้นำองค์การให้เกิดการเรียนรู้ที่จะสามารถทรงพลังของตนเองไว้เพื่อจะได้สามารถส่งพลังดังกล่าวไปยังบุคคลรอบข้าง ไม่ว่าจะเป็นบุคคลในองค์กรของตนเองหรือชุมชนรายรอบและสังคมโดยภาพรวม
การสร้างพลังในการนำไม่ใช่เรื่องง่าย และการคงสภาพพลังเหล่านั้นไว้ก็เป็นเรื่องยาก โดยเฉพาะในสภาวะแห่งการเปลี่ยนแปลง สถานการณ์ความรุนแรงต่าง ๆ ความกดดันเหล่านี้ย่อมก่อให้เกิดความเครียด ความอ่อนล้าและความเปล่าเปลี่ยวขึ้นกับผู้นำ ทั้งนี้เห็นได้ว่า ความเป็นผู้นำเป็นเรื่องของการใช้พลังและการโน้มน้าวจูงใจผู้อื่น ซึ่งพลังนี้ก็สามารถก่อให้เกิดช่องว่างระหว่างบุคคลขึ้นมาได้ ด้วยเหตุนี้เองผู้นำจึงมักโดนตัดขาดออกจากกลุ่ม และถูกตัดออกจากความสัมพันธ์กับผู้อื่นโดยสิ้นเชิง ในขณะเดียวกัน ร่างกายของคนเราก็ไม่ได้รับการออกแบบมาเพื่อจัดการกับแรงกดดันที่ต่อเนื่องและยาวนาน สภาวะดังกล่าวย่อมก่อให้เกิดภาวะอ่อนแรง กับผู้นำขึ้นได้ทุกเวลา แม้ว่า  ภาวะอ่อนแรงจะเป็นเรื่องปกติสำหรับผู้นำ เนื่องจากอารมณ์ของคนเราเป็นสิ่งที่สามารถถ่ายทอดกันได้ ดังนั้น ความอ่อนล้าหรือภาวะหมดพลังจึงสามารถระบาดหรือถ่ายทอดไปยังบุคคลที่รอบ ๆ ได้อย่างรวดเร็ว จนกระทั่งครอบงำไปทั่วองค์การ
เช่นเดียวกันกับภาวะอ่อนแรง ภาวะทรงพลังก็สามารถถ่ายทอดไปยังผู้อื่นได้เช่นกัน หากผู้นำเปี่ยมไปด้วยภาวะทรงพลัง มีความตื่นเต้น ความหวัง ผู้ตามจะรู้สึกมีพลังและแรงจูงใจตามไปด้วย ผู้นำทรงพลังจึงต้องตื่นตัว ตระหนัก และปรับเปลี่ยนตัวเองให้เข้ากับผู้อื่นและสถานการณ์ที่อยู่รอบตัวเองเสมอ ผู้นำทรงพลังจะต้องสร้างวิสัยทัศน์ การมองโลกในแง่ดี และเปี่ยมไปด้วยความหวังอยู่เสมอ ภาวะผู้นำทรงพลังจึงเป็นภาวะผู้นำที่เหมาะสมสำหรับบริบทในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้  ที่ผู้นำต้องสนธิพลังในตนเอง ทั้งทางด้านกายภาพ จิตวิญญาณและพลังทางปัญญา เพื่อเปลี่ยนแปลงตัวเองให้เป็นผู้นำพันธุ์ใหม่ที่แข็งแรง เข้มแข็ง เป็นตัวอย่างที่ดี น่าเลื่อมใส เปี่ยมด้วยบารมี ที่สามารถปฎิบัติหน้าที่ในฐานะผู้ ประสานความคิด  ประสานสัมพันธ์ ประสานใจ และประสานความร่วมมือให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการสร้างมิติใหม่ในการสร้างพลังการเปลี่ยนแปลงเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษาของชาติต่อไป

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น